สถานการณ์ข้อมูลเชิงระบาดวิทยา(Epidemiological information) ของโรค/ภัยต่างประเทศ
ประจำวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 มีดังนี้
1. สถานการณ์โรคติดเชื้อโคโรน่าสายพันธุ์ 2012
ข้อมูลจากเวปไซต์
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศซาอุดิอาระเบีย องค์การอนามัยโลก CDC และ www.cidrap.umn.edu/news-perspective/2013/07/qatari-mers-patient-dies-who-offers-case-control-study-guide
ที่มีการเผยแพร่ในวันที่ 7 กรกฎาคม -9 กรกฎาคม 2556 แจ้งว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน
2555 ถึง 9 กรกฎาคม 2556 มีรายงานผู้ป่วย โรคติดเชื้อโคโรน่าสายพันธุ์ 2012 จำนวน
81 ราย(ข้อมูลองค์การอนามัยโลก 80 ราย เพิ่ม1
รายที่เป็นรายงานจากเวปไซต์กระทรวงสาธารณสุข ประเทศซาอุดิอาระเบีย ) เสียชีวิต 45
ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 55.55กระจายใน 8 ประเทศ ดังนี้
1.1 ประเทศฝรั่งเศส
ผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย
1.2 ประเทศอิตาลี ผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย
ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
1.3 ประเทศจอร์แดน ผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย เสียชีวิต 2
ราย
1.4 ประเทศกาตาร์ ผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย เสียชีวิต 1
ราย(รายแรกของประเทศกาตาร์ที่ถูกส่งไปรับการรักษาที่ Guy's and St Thomas'
ประเทศอังกฤษตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2556 เสียชีวิตวันที่ 28 มิถุนายน
2556)
1.5 ประเทศซาอุดิอาระเบีย ผู้ป่วยยืนยัน 66 ราย ผู้ป่วยเข้าข่าย 12 ราย
เสียชีวิต 38 ราย ( ผู้ป่วยรายสุดท้ายรายงานวันที่9 กรกฎาคม 2556
เป็นชายอายุ
66 ปี อาศัยในเมือง Asir ส่วนรายที่ 65 ซึ่งเป็นHCW ที่ Hafr Al-Batin อาการดีขึ้น
ทำให้ประเทศซาอุดิอาระเบียมีรายงานผู้ป่วยใน 10 เมือง ได้แก่ Hafr Al-Batin,
Damman, Al-Qassim, Jeddah, Riyadh, Al-Ahsa, Taif (อยู่ในเขตMecca) ,Wadi Aldwase
Bisha และ Asir
1.6 ประเทศตูนิเซีย ผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย ผู้ป่วยเข้าข่าย 1
ราย
1.7 ประเทศสหราชอาณาจักร ผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย เสียชีวิต 2
ราย
1.8 ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทต์ ผู้ป่วยยืนยัน1 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ในการจัดแถลงข่าวเรื่องMERS-CoVเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 ของ Dr
Keiji Fukuda, Assistant Director General for Health Security and the Environment
ซึ่งขณะนั้นมีรายงานผู้ป่วย 79 ราย เสียชีวิต 42 รายว่า รายงานผู้ป่วย
และเสียชีวิตอาจจะมีรายงานเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีความชัดเจนว่าทุกกลุ่มอายุติดเชื้อได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชายสูงอายุและป่วยด้วยโรคเรื้อรังมีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิตง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ
อัตราป่วยตายสูงถึงร้อยละ 60 ลักษณะการแพร่ระบาดของโรคแบ่ง 2 ประเภทใหญ่ๆ
ได้แก่
1.ในชุมชน ลักษณะที่พบจะเป็น sporadic ในเมืองและหมู่บ้าน
แต่ยังไม่มีคำตอบว่าผู้ป่วยไปรับเชื้อจากที่ใด และอย่างไร
2. Limited human-to-human transmission
ผู้ป่วยอาจจะไปรับเชื้อจากผู้ติดเชื้อรายอื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวเดียวกันซึ่งพบในหลายเหตุการณ์ นอกจากนั้น
Human-to-human transmissionที่ปรากฏในhospital setting
มีรายงานหลายเหตุการณ์ในประเทศซาอุดิอาระเบีย
ที่พบว่าการการติดต่อจากผู้ป่วยไปยังผู้ป่วยรายอื่นๆ
หรือจากผู้ป่วยแพร่สู่บุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนั้นนักวิจัยของ Johns Hopkins
University ได้เปิดเผยผลการวิจัยใน The New England Journal of
Medicine.เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ว่า The virus is capable of person-to-person
transmission and circulate in healthcare settings with "considerable morbidity
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ยังไม่ทราบได้แก่ สัตว์ชนิดใดที่เป็นพาหะนำโรค
คนในชุมชุชมชนติดเชื้อได้อย่างไร จำนวนmild หรือ no symptoms มีเท่าใด
และจะทราบอย่างไร ผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการสามารถแพร่สู่คนอื่นๆได้หรือไม่
องค์การอนามัยโลกได้คาดคะเน แนวโน้มที่เป็นไปได้ของMERS 3
เหตุการณ์ได้แก่
1. fades away : การแพร่ระบาดค่อยๆเลือนหายไป coronavirus
อาจจะเป็นเพียงเชื้อร้ายแรงที่ปรากฏให้เห็นในช่างเวลาหนึ่ง
2. The current
pattern continues : มีการระบาดไปเรื่อยๆ มีรายงานเดือนละ 20 ราย เสียชีวิต 10
ราย
3. MERS-CoV changes : เชื้อกลายพันธ์ ซุึ่งจะมีการะบาดมากขึ้น
รายงานผู้ป่วยและเสียชีวิตมากขึ้น และอาจจะเกิด full-blown global
pandemic
นอกจากนั้นKeiji Fukuda, MD, the WHO's assistant director-general for
health security and environment ได้กล่าวเสริมว่า” We really want to be in
position to be ready for any possibility, and we want countries to be ready for
any possibility”
ข้อมูลจาก www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736%2813%2961492-0/abstract
และhttp://life.nationalpost.com อ้างการศึกษา Interhuman
transmissibility of Middle East respiratory syndrome coronavirus: estimation of
pandemic risk ของนักวิจัยชาวฝรั่งเศส
ว่าจากการศึกษาการแพร่ระบาดของไวรัสนี้จากผู้ติดเชื้อไปยังบุคคลอืนๆ มีR0 06.-0.69
ที่ต่ำกว่า 1 ซึ่งเปรียบเทียบต่ำกว่าSARS เมื่อ 10 ปีซึ่งเริ่มมีการระบาดSARS มี R0
0.8 อย่างไรก็ตามนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า R0 ของMERS
อย่างเปลี่ยนแปลงได้ เพราะSARS ภายหลังมี R0 เท่ากับ 3
ด้านการรับมือ
pilgrimsที่จะมาถึงประเทศซาอุดิอาระเบียและองค์การอนามัยโลกให้ความสนใจค่อนข้างมากเนื่องจากจะเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนทั่วโลกมาร่วมงานหลายล้านคน
ซึ่งเมื่อกลับไปยังแต่ละประเทศอาจจะติดเชื่อกลับไปได้ เนื่องจากร้อยละ 80
ของผู้ป่วยมีรายงานจากประเทศซาอุดิอาระเบีย นอกจากนั้น Dr. Kamran Khan, จากSaint
Michael's Hospital Keenan Research Center, Toronto, Canada, กล่าวว่า "We still
don't have a good idea where this (MERS-CoV) is coming from, so taking measures
to mitigate risks are constrained."
อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลก ได้จัดตั้ง Emergency
Committeeที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ เพื่อประชุมหารือ emergency plans
MERS-CoV (Middle East Respiratory Syndrome Coronavirus)
เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคลง หรือรองรับกรณีที่มีการแพร่ระบาดจนกลายเป็นglobal
pandemic กลุ่มผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวจะให้ข้อเสนอแนะแก่ to Margaret Chan,
Director-General of WHO, ในcontext of a "Public Health Emergency of
International Concern" (PHEIC).
2. สถานการณ์โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ A(H7N9)
2.1 China
The National Health and Family Planning Commission, China
ได้แจ้งองค์การอนามัยโลกว่า การการทำ retrospectively พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ของ
influenza A(H7N9) virus.1 ราย ผู้รายล่าสุดเป็นเด็กชายอายุ 15 ปีจากมณฑลเจียงซู
เริ่มป่วยวันที่ 25 เมษายน 2556 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 26 เมษายน 2556
แพทย์อนุญาตกลับบ้านวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 จากการตรวจทางห้องปฎิบัติการได้ผลบวก
H3N2 seasonal influenza virus และH7N9 avian influenza virus. ทำให้ยอดผู้ป่วยเป็น
133 รายเสียชีวิต 43 ราย
จนถึงปัจจุบันยังไม่มี evidence of sustained
human-to-human transmission แต่มีรายงานจากการระบาดครั้งนี้ 4 Cluster
3. สถานการณ์ invasive meningococcal disease
3.1 Europe
จากเวปไซต์ http://www.ecdc.europa.eu/ อ้างว่า ECDC เปิดเผยว่า ประเทศ
Germany, France และ Belgium, มีรายงาน ผู้ป่วย Neisseria meningitidis serogroup C
strain 7 ราย ในกลุ่ม sex with men (MSM) ซึ่ง strain
ดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการระบาดที่มีรายงานกลุ่ม MSM ผู้เสียชีวิตในนิวยอร์ค
ระหว่างปี 2553- 2556
4. สถานการณ์โรคไข้เลือดออก
4.1 ประเทศฟิลิปปินส์
เอเอฟพีรายงานว่าโรคไข้เลือดออกทระบาดในจังหวัดอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์
ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 1,800 คนและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อของครึ่งปีนี้เท่ากับทั้งปีของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 71
อาจเป็นผลมาจากการกักเก็บน้ำไม่ถูกวิธีและพฤติกรรมยุงลายที่เปลี่ยนไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น