1) มณฑล Shanghai ผู้ติดเชื้อ 2 ราย เสียชีวิต 2 ราย (เพศชาย 2 ราย อายุ 87 ปี และ 27 ปี เริ่มป่วยวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และ 27 กุมภาพันธ์ 2556 เสียชีวิตวันที่ 4 และ 10 มีนาคม 2556 ตามลำดับ ผู้ติดเชื้อรายที่ 2 มีอาชีพขายเนื้อสัตว์
2) มณฑล Anhui ( Chuzhou city)ผู้ติดเชื้อเป็นหญิงอายุ 35 ปี เริ่มป่วยวันที่ 9 มีนาคม 2556 มีอาการ critical condition ปัจจุบันรักษาที่ Jiangsu
3) มณฑล Jiangsu ผู้ติดเชื้อ 4 ราย เป็นเพศหญิง 3 ราย อายุ 32 , 45 และ 48 ปี
และเพศชายอายุ 83 ปี 1 ราย ผู้ติดเชื้อที่เป็นหญิงอายุ 45 ปีมีอาชีพเป็นคนงานใน
ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ปีกทั้ง 4 รายมีอาการ critical condition
4) มณฑลZhejiang มีผู้ติดเชื้อ 2 รายเป็นเพศชาย 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย อายุ 38 ปี
และ 67 ปีตามลำดับ ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นกุ๊กทำงานที่ Jiangsu เริ่มป่วยวันที่ 7
มีนาคม 2556 เสียชีวิต 27 มีนาคม 2556 ส่วนอีก 1 รายอาศัยในเขตHangzhou
เข้ารับการรักษาวันที่ 25 มีนาคม 2556
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ของมณฑล Jiangsu และZhejiang จำนวน 6 รายนั้นมี วันเริ่มป่วยระหว่างวันที่ 7 – 21 มีนาคม 2556 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระหว่างวันที่ 25 -30 มีนาคม 2556 ผู้สัมผัสจำนวน 350 รายยังไม่พบอาการผิดปกติ ทั้ง 2 มณฑลเป็นเขตอยู่ระหว่างมณฑล Shanghai และAnhui ประวัติการสัมผัสสัตว์ปีกยังไม่ชัดเจน ไม่มีประวัติเชื่อมโยงทางระบาดวิทยาในแต่ละราย ตลอดจนไม่มีเหตุการณ์ evidence of human-to-human transmission of the influenza A(H7N9) virus
2.
สถานการณ์โรคไข้หวัดนกH5N1
2.1 CambodiaDr. Denis Laurent, deputy director ของ the Kantha Bopha Hospital ในกรุงพนมเปญ เปิดเผยว่ามีผู้ยืนยันติดเชื้อ Avian Influenza H5N1 รายใหม่ 1 ราย เป็นเพศชายอายุ 6 ปี อาศัยในจังหวัด Kampot เข้ารับการรักษาใน Kantha Bopha Hospital ในวันที่ 31 มีนาคม 2556 ด้วยอาการ severe pneumonia ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จาก Instituts Pasteur เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 ได้ผลบวกต่อเชื้อดังกล่าว ขณะนี้รายดังกล่าวมี อาการsevere conditions
ผู้ติดเชื้อรายนี้นับว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 10 ของประเทศของปี 2556
สถานการณ์ในประเทศ
1. สถานการณ์โรคไข้หวัดนก
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ว่า ขณะนี้ในไทยยังไม่มีการติดต่อ และตามรายงานมีชาวจีนเสียชีวิต 3 ราย และผู้ติดเชื้อ 88 ราย ซึ่งจีนได้มีการนำผู้ติดต่อทั้ง 88 รายมาเฝ้าดูอาการ และพบแล้วในหลายประเทศ ส่วนกรณีที่มีทัวร์จากจีนเข้ามาในประเทศจะเป็นพาหะหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังเฝ้าระวังดูว่ามีสัตว์ปีกตายเป็นจำนวนมากหรือไม่ หรือมีคนเสียชีวิตมากขึ้น จีนก็จะเตือนให้เฝ้าระวังโดยได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับจีน และองค์กรอนามัยโลก ไม่มีปกปิดข้อมูล เพราะเป็นความร่วมมือทางสุขภาพ
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยเพิ่มเติมว่า มีมาตรการควบคุมตลอดเวลาใน 4 ส่วน คือ 1.สัตว์ป่า เช่น นก หากพบป่วยตายผิดปกติ จะมีการเก็บตัวอย่างอุจจาระมาเพาะเชื้อหาสาเหตุ 2.ฟาร์มแบบปิดที่ต้องมี สัตวแพทย์ควบคุม หากพบการป่วยตายผิดปกติต้องทำการเพาะเชื้อหาสาเหตุ3.สัตว์ที่ประชาชนเลี้ยง หากพบการป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้ง อสม.เก็บตัวอย่างส่งตรวจ และ4.ประชาชนที่ป่วยไอ มีอาการทางปอด ไข้สูงผิดปกติเกิน 3 วัน ให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป
ด้านศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
และที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เผยว่ากรณีปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์
H7N9 ที่มีการระบาดในเซี่ยงไฮ้
ประเทศจีนถือเป็นครั้งแรกที่เชื้อไข้หวัดชนิดนี้ติดต่อจากสัตว์มาสู่คน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีการกลายพันธุ์หรือไม่ แต่เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง
ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าห่วงอีกกรณีหนึ่งก็คือ ขณะนี้ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์
H5N1 ที่กำลังระบาดในประเทศกัมพูชาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงปัจจุบัน ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว
9 ราย โดยในจำนวนนี้เพิ่งเสียชีวิตในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีก
5 ราย
นอกจากนี้ อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วง กรณีต้องเฝ้าระวังเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มโคโรน่าไวรัสเช่นเดียวกับไข้หวัดซาร์ส และที่ผ่านมาโรคนี้พบจาก
ผู้ป่วยชาวซาอุดีอาระเบียเสียชีวิต และชาย ชาวกาตาร์เคยเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบีย
และไปรักษาตัวที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
มีไปรักษาตัวที่เยอรมนี
ดังนั้นการที่มีนโยบายให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางบริการด้านสุขภาพนานาชาติ" หรือเมดิคอลฮับ (Medical Hub) มีคนในแถบตะวันออกกลางเดินทางเข้า-ออกมารักษาพยาบาลจำนวนมาก โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลเอกชน จึงอยากอยากเตือนให้ระมัดระวัง มีอะไรให้หารือกัน อย่าปิดบังกันรวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานกันมากขึ้น ต้องเฝ้าระวังโรคใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาด้วย ทุกฝ่ายต้องเฝ้าระมัดระวังและวางมาตรการป้องกันให้ดี
ดังนั้นการที่มีนโยบายให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางบริการด้านสุขภาพนานาชาติ" หรือเมดิคอลฮับ (Medical Hub) มีคนในแถบตะวันออกกลางเดินทางเข้า-ออกมารักษาพยาบาลจำนวนมาก โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลเอกชน จึงอยากอยากเตือนให้ระมัดระวัง มีอะไรให้หารือกัน อย่าปิดบังกันรวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานกันมากขึ้น ต้องเฝ้าระวังโรคใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาด้วย ทุกฝ่ายต้องเฝ้าระมัดระวังและวางมาตรการป้องกันให้ดี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น