วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สถานการณ์โรคติดเชื้อโคโลน่าไวรัส สายพันธ์ใหม่ 2012

1.     สถานการณ์โรคติดเชื้อโคโลน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2012

         ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 จนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยที่มีอาการ Acute respiratory distress การติดเชื้อที่ปอด และตรวจพบเชื้อ       a novel coronavirus  2 ราย ก่อนมีอาการผู้ป่วยทั้ง 2 รายมีประวัติเดินทางหรือพำนักอยู่ในประเทศซาอุดิอารเบียมาก่อน โดย
        รายที่ 1 เป็นชาย ชาวซาอุดิอารเบียอายุ 60 ปีอาศัยอยู่ในเมืองJeddah เริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2555 ด้วยอาการsevere pneumonia  ต่อมามีอาการแทรกซ้อนคือไตวายอย่างเฉียบพลัน   และเสียชีวิตในวันที่ 24 มิถุนายน 2555 จากการตรวจLung Tissue ไม่พบเชื้อ Influenza virus A.B , parainfluenza virus, enterovirus และ adenovirus ต่อมาจึงทดสอบด้วยpancoronavirus RT-PCR ได้ผลบวก มีการส่งตรวจหาgenome ที่ Erasmus Medical Centre,Rotterdam ซึ่งพบ a putative novel beta-coronavirus ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับbat coronavirus
        รายที่ 2 เป็นชายชาวการ์ตา อายุ 49 ปีไม่มีประวัติunderlying  มีประวัติการเดินทางไปประเทศซาอุดิรเบีย( ญาติให้ประวัติว่ามีอาการsevere Fluหลังจากเข้าร่วมพิธี minor pilgrimage ที่ประทศซาอุฯ เกือบ 1 สัปดาห์) เริ่มมีอาการrespiratory symtomsเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 เข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก ที่เมืองโดฮา ประเทศการ์ตา เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2555 ต่อมามีอาการแทรกซ้อนคือไตวาย ผู้ป่วยรายนี้ได้ส่งต่อทางair ambulance  เพื่อเข้ารับการรักษาตัวต่อในแผนกผู้ป่วยหนัก ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในวันที่ 11 กันยายน 2555  ระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2555 เจ้าหน้าทีได้เก็บตัวอย่างจาก upper และlower respiratory tract ไม่พบเชื้อทั้ง Influenza virus A.B hMPV RSV 21 กันยายน จึงได้เก็บตัวอย่างจาก Lower tract และตรวจโดย pancoronavirus RT-PCR ได้ผลบวก จากการตรวจ nucleotide BLASTในประเทศอังกฤษ พบว่า 80% homology กับ bat coronavirus และได้เปรียบเทียบรายที่ตรวจโดย Erasmus Medical Centre,Rotterdam มีความใกล้เคียงกันถึง 99.5 %
หน่วยงานป้องกันสุขภาพของอังกฤษได้รายงานผู้ป่วยให้ WHO  ได้รับทราบ ขณะนี้ผู้ป่วยยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก ยังไม่มีรายงานผู้สัมผัส(รวมทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่นๆที่ดูแลผู้ป่วย)มีอาการผิดปกติ

       The novel Coronavirus แม้จะอยู่ในFamilily เดียวกับ SARS coronavirus (SARS-CoV) แต่มีลักษณะหรือรูปแบบทางระบาดวิทยาไม่เหมือนกับ SARS   ที่ระบาดทั่วโลกเมื่อปี 2546  ที่มีผู้ป่วยทั่วโลก 8,000 ราย เสียชีวิต 800 ราย (มีการป่วยตายที่เป็นCluster ในกลุ่มแพทย์ พยาบาล ผู้ป่วยในโรงพยาบาลด้วย)   ตัวไวรัสต่างกันที่ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน  โดยไวรัสนี้ทำให้เกิดอาการรุนแรงเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ (SARS) เป็นผลให้ระบบหายใจล้มเหลว และ/หรืออาจจะเกิดไตวายเฉียบพลัน (Acute renal failure : ARF) อย่างรวดเร็ว   (พบว่าผู้ป่วยเป็น ARF (n=13; 17%) และ non-ARF groups (n=65)  สรุป คือ การเกิด ARF ระหว่างการดำเนินโรคสัมพันธ์กับ catatrophic outcome  และได้ตั้งชื่อไวรัสนี้ว่า"London1_novel CoV 2012."



องค์การอนามัยโลกยังเปิด เผยด้วยว่า กำลังหาเครือข่ายห้องทดลองปฏิบัติการที่สามารถให้ความ รู้ความเชี่ยวชาญเรื่องโคโรนาไวรัสแก่ประเทศต่างๆ เนื่องจากเชื้อนี้อยู่ในตระกูลโคโรนาไวรัส ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับเชื้อไวรัสซาร์สที่พบครั้งแรกในจีนเมื่อปี 2546
       นักวิทยาศาสตร์จาก European Centre for Disease Prevention and Control (ECDC)กล่าวว่าได้เฝ้าติดตามเชื้อนี้อย่างใกล้ชิด จากผลเบื้องต้นทางไวรัสวิทยาเห็นว่าโรคนี้อาจจะมีการติดต่อจากสัตว์ ( zoonoses.)

       ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า โรคนี้มีแหล่งโรค,อาการและอาการ,การติดต่อ อย่างไรแต่จกข้อมูลผู้ป่วยยืนยันทั้ง 2 ราย โรคนี้ผู้ป่วยจะมีไข้ ไอ หายใจลำบาก การติดต่ออาจจะติดต่อเหมือนกับการติดเชื้อทางเดินหายใจทั่วไปคือ airborne droplets เมื่อผู้ติดเชื้อไอ หรือจาม  นอกจากนั้นไม่มีรายงานการติดเชื้อจากคนสู่คน  องค์การอนามัยโลกและประเทศซาอุดิอารเบียยังไม่มีประกาศห้ามเดินทางเข้าประเทศซาอุดิอารเบียเพื่อไปร่วมพิธีฮัจญ์ในเดือนตุลาคม 2555  แต่แนะนำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกมีการรายงานผู้ป่วยที่มีอาการ acute respiratory infection หลังจากกลับจากประเทศซาอุดิอารเบีย หรือการ์ตา  โดยมีการกำหนดนิยามเบื้องต้น โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่ควรจะสอบสวน( Patient under investigation), ผู้ป่วยน่าจะเป็น( Probable Novel Coronavirus) และผู้ป่วยยืนยัน( Confirmed Novel Coronavirus)

                จากการศึกษาข้อมูลย้อนหลังพบว่า  Human coronaviruses  พบครั้งแรกเมื่อปี 2503 ซึ่งถูกเรียกว่า the crown-like  รายงานของไต้หวัน พบว่าผู้ป่วยGENEVA
ในกลุ่มผู้ป่วยยืนยันหรือเข้าข่าย (confirmed or probable) ที่เสียชีวิตด้วย SARS มีอาการ ARF  เช่นกันกับที่พบในรายงานโรค SARS ในปี ค.ศ.2003 ในฮ่องกง  ซึ่งทั้งสองการศึกษาให้ข้อสังเกตว่าผู้ป่วยมีอาการไตวายเฉียบพลัน นำไปสู่การเสียชีวิต
 นอกจากนั้นในเดือนเมษายน 2555 ที่ประเทศจอร์แดนพบผู้ป่วยปอดบวมเฉียบพลันเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยไม่ทราบสาเหตุ  จึงได้มีการทบทวนว่าจะเกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรน่าตัวใหม่หรือไม่ จากรายงานทางระบาดวิทยา ในปลายของสัปดาห์ของวันที่ 19 เมษายน 2555 มีรายงานการระบาดของทางเดินหายใจรุนแรงที่ ICU ใน Zarqa Public Hospital ในจำนวนผู้ป่วย 11 ราย เป็นพยาบาล 7 ราย (เสียชีวิต 1 ราย วันที่ 19 เม.ย.55) แพทย์ 1 ราย พี่หรือน้องชายของพยาบาลคนหนึ่ง   ผู้ป่วยทุกรายมีไข้สูง มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง รัฐมนตรีเปิดเผย (22 เม.ย.55) สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว โรงพยาบาลมีการทำให้ปราศจากเชื้อ  และเจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมระยะสั้นเข้มข้นเรื่องการป้องกันการแพร่เชื้อ แต่ไม่มีการรายงานผลการตรวจหาเชื้อของเหตุการณ์นี้ จึงมีผู้ให้ความเห็นให้มีการทบทวนข้อมูลของการระบาดครั้งนั้นว่าในที่สุดตรวจพบเชื้ออะไรหรือไม่ มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจเป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าตัวใหม่ที่มีรายงานจากประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศอังกฤษในขณะนี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น