1.
สถานการณ์โรคติดเชื้อโคโลน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2012
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555
จนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยที่มีอาการ Acute respiratory distress การติดเชื้อที่ปอด
และตรวจพบเชื้อ a novel
coronavirus 2 ราย
ก่อนมีอาการผู้ป่วยทั้ง 2 รายมีประวัติเดินทางหรือพำนักอยู่ในประเทศซาอุดิอารเบียมาก่อน
โดย
รายที่ 1 เป็นชาย ชาวซาอุดิอารเบียอายุ
60 ปีอาศัยอยู่ในเมืองJeddah
เริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่
13 มิถุนายน 2555 ด้วยอาการsevere pneumonia ต่อมามีอาการแทรกซ้อนคือไตวายอย่างเฉียบพลัน และเสียชีวิตในวันที่
24 มิถุนายน 2555 จากการตรวจLung Tissue ไม่พบเชื้อ
Influenza virus A.B , parainfluenza virus, enterovirus และ adenovirus
ต่อมาจึงทดสอบด้วยpancoronavirus RT-PCR ได้ผลบวก มีการส่งตรวจหาgenome ที่ Erasmus Medical
Centre,Rotterdam ซึ่งพบ a putative novel beta-coronavirus ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับbat
coronavirus
รายที่ 2 เป็นชายชาวการ์ตา
อายุ 49 ปีไม่มีประวัติunderlying มีประวัติการเดินทางไปประเทศซาอุดิรเบีย( ญาติให้ประวัติว่ามีอาการsevere
Fluหลังจากเข้าร่วมพิธี minor pilgrimage ที่ประทศซาอุฯ เกือบ 1
สัปดาห์) เริ่มมีอาการrespiratory symtomsเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555
เข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก ที่เมืองโดฮา ประเทศการ์ตา เมื่อวันที่
7 กันยายน 2555 ต่อมามีอาการแทรกซ้อนคือไตวาย
ผู้ป่วยรายนี้ได้ส่งต่อทางair ambulance
เพื่อเข้ารับการรักษาตัวต่อในแผนกผู้ป่วยหนัก ณ กรุงลอนดอน
ประเทศอังกฤษในวันที่ 11 กันยายน 2555
ระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2555 เจ้าหน้าทีได้เก็บตัวอย่างจาก upper
และlower respiratory tract ไม่พบเชื้อทั้ง Influenza
virus A.B hMPV RSV 21 กันยายน
จึงได้เก็บตัวอย่างจาก Lower tract และตรวจโดย pancoronavirus RT-PCR
ได้ผลบวก จากการตรวจ nucleotide BLASTในประเทศอังกฤษ
พบว่า 80% homology กับ bat coronavirus และได้เปรียบเทียบรายที่ตรวจโดย Erasmus Medical Centre,Rotterdam
มีความใกล้เคียงกันถึง 99.5 %
หน่วยงานป้องกันสุขภาพของอังกฤษได้รายงานผู้ป่วยให้
WHO ได้รับทราบ ขณะนี้ผู้ป่วยยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก
ยังไม่มีรายงานผู้สัมผัส(รวมทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่นๆที่ดูแลผู้ป่วย)มีอาการผิดปกติ
The novel Coronavirus แม้จะอยู่ในFamilily เดียวกับ
SARS coronavirus (SARS-CoV)
แต่มีลักษณะหรือรูปแบบทางระบาดวิทยาไม่เหมือนกับ SARS ที่ระบาดทั่วโลกเมื่อปี 2546 ที่มีผู้ป่วยทั่วโลก 8,000 ราย เสียชีวิต 800
ราย (มีการป่วยตายที่เป็นCluster ในกลุ่มแพทย์ พยาบาล
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลด้วย) ตัวไวรัสต่างกันที่ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน
โดยไวรัสนี้ทำให้เกิดอาการรุนแรงเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ (SARS)
เป็นผลให้ระบบหายใจล้มเหลว และ/หรืออาจจะเกิดไตวายเฉียบพลัน (Acute
renal failure : ARF) อย่างรวดเร็ว (พบว่าผู้ป่วยเป็น ARF
(n=13; 17%) และ non-ARF groups (n=65) สรุป คือ การเกิด ARF ระหว่างการดำเนินโรคสัมพันธ์กับ catatrophic outcome และได้ตั้งชื่อไวรัสนี้ว่า"London1_novel CoV 2012."
องค์การอนามัยโลกยังเปิด เผยด้วยว่า กำลังหาเครือข่ายห้องทดลองปฏิบัติการที่สามารถให้ความ รู้ความเชี่ยวชาญเรื่องโคโรนาไวรัสแก่ประเทศต่างๆ เนื่องจากเชื้อนี้อยู่ในตระกูลโคโรนาไวรัส ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับเชื้อไวรัสซาร์สที่พบครั้งแรกในจีนเมื่อปี
2546
นักวิทยาศาสตร์จาก European Centre for Disease Prevention and Control (ECDC)กล่าวว่าได้เฝ้าติดตามเชื้อนี้อย่างใกล้ชิด
จากผลเบื้องต้นทางไวรัสวิทยาเห็นว่าโรคนี้อาจจะมีการติดต่อจากสัตว์ (
zoonoses.)
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า โรคนี้มีแหล่งโรค,อาการและอาการ,การติดต่อ อย่างไรแต่จกข้อมูลผู้ป่วยยืนยันทั้ง
2 ราย โรคนี้ผู้ป่วยจะมีไข้ ไอ หายใจลำบาก
การติดต่ออาจจะติดต่อเหมือนกับการติดเชื้อทางเดินหายใจทั่วไปคือ airborne
droplets เมื่อผู้ติดเชื้อไอ หรือจาม นอกจากนั้นไม่มีรายงานการติดเชื้อจากคนสู่คน องค์การอนามัยโลกและประเทศซาอุดิอารเบียยังไม่มีประกาศห้ามเดินทางเข้าประเทศซาอุดิอารเบียเพื่อไปร่วมพิธีฮัจญ์ในเดือนตุลาคม
2555
แต่แนะนำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกมีการรายงานผู้ป่วยที่มีอาการ acute respiratory infection หลังจากกลับจากประเทศซาอุดิอารเบีย หรือการ์ตา โดยมีการกำหนดนิยามเบื้องต้น
โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่ควรจะสอบสวน( Patient under investigation), ผู้ป่วยน่าจะเป็น( Probable Novel Coronavirus) และผู้ป่วยยืนยัน( Confirmed Novel Coronavirus)
จากการศึกษาข้อมูลย้อนหลังพบว่า Human coronaviruses พบครั้งแรกเมื่อปี 2503 ซึ่งถูกเรียกว่า
the crown-like
รายงานของไต้หวัน พบว่าผู้ป่วยGENEVA
ในกลุ่มผู้ป่วยยืนยันหรือเข้าข่าย
(confirmed or
probable) ที่เสียชีวิตด้วย SARS มีอาการ ARF
เช่นกันกับที่พบในรายงานโรค
SARS ในปี ค.ศ.2003 ในฮ่องกง ซึ่งทั้งสองการศึกษาให้ข้อสังเกตว่าผู้ป่วยมีอาการไตวายเฉียบพลัน
นำไปสู่การเสียชีวิต
นอกจากนั้นในเดือนเมษายน
2555 ที่ประเทศจอร์แดนพบผู้ป่วยปอดบวมเฉียบพลันเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย เสียชีวิต 1
ราย โดยไม่ทราบสาเหตุ
จึงได้มีการทบทวนว่าจะเกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรน่าตัวใหม่หรือไม่
จากรายงานทางระบาดวิทยา ในปลายของสัปดาห์ของวันที่ 19 เมษายน 2555
มีรายงานการระบาดของทางเดินหายใจรุนแรงที่ ICU ใน Zarqa Public Hospital ในจำนวนผู้ป่วย 11 ราย เป็นพยาบาล 7 ราย (เสียชีวิต 1 ราย วันที่ 19
เม.ย.55) แพทย์ 1 ราย พี่หรือน้องชายของพยาบาลคนหนึ่ง ผู้ป่วยทุกรายมีไข้สูง มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง
รัฐมนตรีเปิดเผย (22 เม.ย.55) สามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว
โรงพยาบาลมีการทำให้ปราศจากเชื้อ
และเจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมระยะสั้นเข้มข้นเรื่องการป้องกันการแพร่เชื้อ แต่ไม่มีการรายงานผลการตรวจหาเชื้อของเหตุการณ์นี้
จึงมีผู้ให้ความเห็นให้มีการทบทวนข้อมูลของการระบาดครั้งนั้นว่าในที่สุดตรวจพบเชื้ออะไรหรือไม่
มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจเป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าตัวใหม่ที่มีรายงานจากประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศอังกฤษในขณะนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น