สถานการณ์โรคและภัยสุขภาพ 13 มีนาคม 2556

สถานการณ์ในต่างประเทศ

1. สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก

1.1             Cambodia

          พบการระบาดของเชื้อH5N1 ในสัตว์ปีกที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง ในอำเภอ, Siem Reap จังหวัด SIEM REAP เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 มีสัตว์ป่วยและตาย 10 ตัว และทำลาย 2359 ตัว

     1.2 India

     พบการระบาดของเชื้อH5N1 ในสัตว์ปีกที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง ในเขต Purnea รัฐ BIHAR เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 มีสัตว์ป่วยและตาย 338 ตัว หน่วยงานภาครัฐต้องทำลายสัตว์ปีกมากกว่า 2000 ตัว และไข่มากกว่า 600 ตัว

     1.3 Bangladesh

 Haripada Biswas, livestock officer ของอำเภอ Rajbari เปิดเผยว่า พบการระบาดของเชื้อ H5N1 ในสัตว์ปีกที่ฟาร์ม Seraj  หมู่บ้าน Kalyianpur  เขต Sadar upazila  อำเภอ Rajbari  ทำให้ต้องทำลายสัตว์ปีก(ไก่) มากกว่า 1800 ตัว และไข่มากกว่า 400 ฟอง ในวันที่ 10 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา
     1.4  Vietnam

The Ministry of Agriculture and Rural Development เปิดเผยว่ามีความกังวลในสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกในจังหวัดในตอนใต้ของประเทศค่อนข้างมาก นอกจากนั้นจากการเก็บตัวอย่างจากสัตว์ปีกในตลาดค้าขายสัตว์ปีกที่จังหวัด Dong Thap 72 ตัวอย่างพบเชื้อ virus H5N1 flu 24 ตัวอย่าง(ร้อยละ 33.3)  และ  จังหวัดCa Mau  ตรวจตัวอย่างจากสัตว์ปีกในตลาดค้าขายสัตว์ปีก    24 ตัวอย่าง พบติดเชื้อ virus H5N1 flu 16 ตัวอย่าง( ร้อยละ 66.6)          จังหวัด Nghe An ก็พบการระบาดเช่นกันทำให้ต้องทำลายไก่มากกว่า 500 ตัว

 

1.5 Australia

      ตรวจพบเชื้อของ Low pathogenic avian influenza virus(H5)  ในเป็ด 1 ตัว ที่เขต Henley Brook, WESTERN AUSTRALIAเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ทำให้ต้องทำลายสัตว์ปีกที่อยู่ใกล้เคียง 95 ตัว

2.     สถานการณ์โรคไข้เลือดออก

2.1             South Asian countries

      องค์การอนามัยโลก จะประกาศใช้โปรแกรมพิเศษใน South Asian Region countries ทุกประเทศ ในการควบคุมโรคไข้เลือดออก หลังจากแต่ละประเทศต้องต่อสู้โรคนี้เพียงลำพังและมีความก้าวหน้าในการป้องกันควบคุมโรคนี้ค่อนข้างน้อย

3. สถานการณ์เชื้อดื้อยา

3.1 UK

         Britain's top health officialเปิดเผยในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปัญหาเชื้อดื้อยาถือเป็น” a catastrophic threat “ของประเทศ เพราะทำให้ผู้ป่วยหลังผ่าตัดติดเชื้อและเสียชีวิตได้ง่าย  และกล่าวเสริมว่าทั่วโลกต้องต่อสู้กับ antibiotic, หรือ antimicrobial resistance และต้องค้นหายาใหม่ๆเพื่อใช้รักษาเชื้อดื้อยาดังกล่าว

4. สถานการณ์ดื่มเหล้าเถื่อนเสียชีวิต

    4.1 Libya

      กระทรวงสาธารณสุขลิเบียเผยว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 51 ศพ สาเหตุจากการดื่มเหล้าเถื่อน ที่ลักลอบต้มเพื่อบริโภคกันเองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งผู้เสียชีวิตอายุระหว่าง 19-50 ปี มีสตรีรวมอยู่ด้วย 2 ศพ ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้น 38 ศพ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในกรุงตริโปลี ส่วนอีก 13 ศพ เสียชีวิตระหว่างถูกย้ายตัวไปรักษาที่ตูนิเซีย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบผู้ป่วยอีกอย่างน้อย 378 ราย ที่ล้มป่วยด้วยภาวะเป็นพิษจากเมทานอล ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน ลมชัก และสูญเสียการมองเห็น หลังดื่มเหล้าขาวที่ต้มขึ้นเอง ซึ่งเรียกกันว่า "บูคา"ทั้งนี้ ทางการได้ประกาศกวาดล้างผู้จำหน่ายและลักลอบขายแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด

5. สถานการณ์มีตบอล/ฮอตด๊อกปนเปื้อนเนื้อม้า(ที่อาจมีปนเปื้อนยาเฟนิลบูตาโซน หรือยาแก้อักเสบที่มักใช้ในม้าแข่งและอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์)

     อิเกีย เครือข่ายร้านเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของสวีเดน ได้เพิ่มรายชื่อประเทศเรียกคืนมีทบอลที่อาจปนเปื้อนเนื้อม้าเป็น 24 ประเทศ ในจำนวนนี้มีไทยรวมอยู่ด้วย
     อิเกียได้เรียกคืนมีทบอลแช่แข็งบรรจุถุงขนาด 1 กิโลกรัม หลังจากทางการสาธารณรัฐเช็กแจ้งว่า พบเนื้อม้าปนเปื้อน นับเป็นร้านค้าล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากกรณีอื้อฉาวทั่วยุโรปเรื่องเนื้อ ม้าปนเปื้อนในอาหารแช่แข็ง ซึ่งกลายเป็นข่าวตั้งแต่เดือนมกราคม เมื่อพบดีเอ็นเอม้าในเบอร์เกอร์เนื้อวัวที่จำหน่ายในอังกฤษและไอร์แลนด์
      โฆษกของอิเกียกล่าวว่า ได้เรียกคืนมีทบอลจากร้านในฮ่องกง สาธารณรัฐโดมินิกัน และไทย เพิ่มเติมจาก 21 ประเทศในยุโรปที่ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ (25 ก.พ.) แต่ไม่รวมสินค้าที่วางจำหน่ายในรัสเซียและนอร์เวย์ ซึ่งใช้ซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น ส่วนห้างอิเกียในโปแลนด์และสวิตเซอร์แลนด์ ใช้ทั้งจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นและจากสวีเดน แต่ปัจจับันได้ใช้ซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นเท่านั้น

มีทบอลเป็นสินค้ายอดนิยมของร้าน จึงได้ดำเนินมาตรการป้องกันล่วงหน้าแต่ไม่ต้องการให้ลูกค้ากังวล ขณะนี้ห้องทดลองปฏิบัติการในเยอรมนีกำลังตรวจสอบมีทบอลเพื่อหาเนื้อม้าปนเปื้อน

     นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 บริษัทอิเกีย ได้สั่งถอดฮอตด็อกออกจากการวางจำหน่ายใน 5 ชาติยุโรป หลังผลตรวจพบสิ่งบ่งชี้มีการปลอมปนเนื้อม้า ไม่กี่วันหลังจากเครือข่ายร้านเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของสวีเดนแห่งนี้ สั่งถอด “มึตบอล” ลงจากชั้นวางในหลายสิบประเทศ รวมทั้งไทย

     บริษัทสวีเดนแห่งนี้ระบุว่า กำลังดำเนินการถอดฮอตด็อกออกจากการวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส รวมถึงอาหารประจำชาติสวีเดนที่เรียกว่า wallenbergare และแคสเซอโรลเนื้อ หลังผลตรวจยืนยันพบข้อบ่งชี้ต่างๆ ถึงการปลอมปนของเนื้อม้า นอกจากนั้น รัสเซียประกาศพบผลิตภัณฑ์ปนเปื้อนเนื้อม้าเป็นครั้งแรก ขณะโปรตุเกสยึดผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่เจือปนเนื้อม้าได้ถึง 79 ตัน ส่วนทางโปแลนด์ตรวจพบร่องรอยของเนื้อม้าในเนื้อสัตว์จากโกดัง 3 แห่ง
หน่วยงานกำกับดูแลด้านเกษตรกรรมของรัสเซียกล่าวเมื่อวันพุธว่า ตรวจพบดีเอ็นเอของม้าในฮอตด็อกที่นำเข้าจากประเทศออสเตรีย ถือเป็นการค้นพบเนื้อม้าปนเปื้อนในประเทศรัสเซียเป็นครั้งแรก และขณะนี้ทางการกำลังพิจารณาออกมาตรการเพื่อเป็นการป้องกัน แต่ไม่ได้มีการอธิบายเพิ่มเติม

6.สถานการณ์โรคมาลาเรียดื้อยา    

  6.1 Thai-Myanmar border

       จากการศึกษาพบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคมาลาเรียในเด็กและหญิงมีครรภ์ บริเวณชายแดน Thai-Myanmar ลดลงอย่างได้ชัดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อัตราการดื้อยา1st-line mefloquine-artesunate combination therapy ยังเพิ่มขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี 2554

7. สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก

  7.1 Vietnam

    Nguyen Van Binh, head of the ministry's Preventive Health Department เปิดเผยว่า ประเทศเวียดนามมีการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก โดยตั้งแต่เดือนมกราคม และกุมภาพันธ์  2556    มีรายงานผู้ป่วย มากกว่า 10,000 ราย กระจายใน 60 จาก 64 จังหวัดทั่วประเทศ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นทารกและเด็ก เชื้อที่พบในประเทศเวียดนาม ส่วนใหญ่เป็น Enterovirus 71 (EV-71)

8. สถานการณ์ Mystery skin disease

 8.1 Vietnam

     พบ mystery skin disease ที่จังหวัด Quang Ngai โดยมีผู้ป่วย 17 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยเฉพาะอำเภอ Ba To และSon Ha พบผู้ป่วย 13 ราย

9. สถานการณ์โรค Chikungunya

9.1  Indonesia

    2 เดือนที่ผ่านมามีการระบาดของโรคไข้เลือดออกและChikungunyaในเขตSukoharjo  จาก ข้อมูลของ the District Health Office (DKK) พบผู้ป่วย Chikungunya 206 รายและไข้เลือดออก 39 ราย

สถานการณ์ในประเทศ

  1. สถานการณ์โรคไข้เลือดออก

     นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนัก จากสถิติเมื่อวันที่ 1 มกราคม-19 กุมภาพันธ์ 2556 มีอัตราผู้ป่วย 13 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน สูงสุดในรอบ 10 ปี คาดว่าจะป่วยมากถึง 1.2-1.5 แสนคน ครม.จึงมีมติให้กระทรวงมหาดไทยกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้นำท้องถิ่นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกวาดล้างลูกน้ำตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน  ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ ให้กำชับผู้บริหารโรงเรียนในการหาผู้รับผิดชอบในการดำเนินการกวาดล้างลูกน้ำ กระทรวงอุตสาหกรรมขอให้ดูแลทุกอาคาร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ประสานไปยังรีสอร์ต โรงแรมสถานที่ท่องเที่ยว และกรมประชาสัมพันธ์ รณรงค์ผ่านสื่อทุกช่องทาง ในการให้ประชาชนดูแลบ้านเรือนไม่ให้มีลูกน้ำในภาชนะต่างๆ

        ด้าน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการระบาดของโรคไข้เลือดออก คือ ฝนที่ตก เป็นช่วงๆ ในขณะนี้ ถือเป็นการเติมน้ำในภาชนะที่อาจมีไข่ยุงลายสะสมอยู่ตามขอบภาชนะจำนวนมาก ประกอบกับสภาพที่อาจจะมีภาวะภัยแล้ง ทำให้ประชาชนเกิดพฤติกรรมการกักเก็บน้ำในภาชนะก็ยิ่งทำให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเพิ่มขึ้น อีกเช่นกัน ขณะที่นิสัยของยุงลายเป็นยุงที่สะอาด ไข่ในน้ำนิ่งใส ยุงลาย ไม่ได้ไข่ในน้ำโดยตรงแต่จะไข่เหนือระดับน้ำ 1-2 เซนติเมตร เมื่อมีน้ำมาเติมท่วมจึงจะแตกตัวเป็นไข่ เป็นลูกน้ำ และเป็นยุงลายตัวเต็มวัย ใช้เวลาทั้งหมด 7-10 วัน ดังนั้น จำเป็นต้องรณรงค์ให้กำจัดลูกน้ำทุกสัปดาห์ เพื่อตัดวงจรการเกิดโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ทำให้ยุงไม่ไข่ในภาชนะใส่น้ำ เช่น การใช้ผลมะกรูดบากผิวใส่ลงในภาชนะขังน้ำ 1 ลูก เปลี่ยนทุก 2 วัน หรือใช้ปูนแดง ปั้นขนาดเท่าลูกปิงปอง ตากให้แห้ง 3 วัน 1 ก้อน ใส่โอ่งมังกร 1 ใบ เปลี่ยนทุกเดือน หรือใช้เทคนิคการเปิดน้ำให้เต็มภาชนะจนไม่เหลือพื้นที่ขอบภาชนะให้ยุงลายวาง ไข่ เป็นต้น แค่นี้ก็เพียงพอต่อการป้องกัน