วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

สาธารณสุขเตือนพบ"เชื้อมาลาเรีย"ดื้อยา 10%



ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยว่า สถานการณ์โรคมาลาเรียทั่วโลกในแต่ละปี จำนวนประชากรที่ติดเชื้อมาลาเรียทั่วโลกมีประมาณ 300 ล้านคน เสียชีวิตประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 90 เกิดขึ้นในแอฟริกา ส่วนใหญ่จะเกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และในทวีปแอฟริกามีแนวโน้มว่าปัญหาอาจจะเพิ่มมากขึ้น  ส่วนสถานการณ์โรคมาลาเรียในประเทศไทย ปี 55 พบผู้ป่วย 24,723 รายกรมควบคุมโรคเตรียมเปลี่ยนสูตรยารักษา โรคมาลาเรีย เป็นสูตร DHA-PIP หลังเฝ้าระวังทั่วประเทศ 9 จุด พบคุณภาพยาเฉลี่ย 90% ขยายวงขึ้น หรือเชื้อดื้อต่อยาประมาณ 10% ขณะที่ปี 55 พบผู้ป่วยกว่า 24,000 ราย
     ด้านนพ.วิชัย  สติมัย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค เผยเพิ่มเติมว่า ในปี 2556 กรมควบคุมโรคจะทำการเปลี่ยนยารักษาโรคมาลาเรีย ที่เกิดจากเชื้อพลาสโมเดียม ชนิดฟัลซิปารัม ซึ่งเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงอาจทำให้เชื้อขึ้นสมอง ตับวาย จนถึงเสียชีวิต จากยาอาร์ทีซูเนต (artesunate), ยาเมโฟลควิน (mefloquine) เป็นยาสูตรผสมไดไฮโดรอาทีมิซินิน-พิเพอราควิน(Dihydroartemisininpiperaquin หรือ DHA-PIP) เนื่องจากการเฝ้าระวังเชื้อวัณโรคดื้อยาพื้นที่ 9 จุด ใน 9 จังหวัดตามแนวชายแดนไทย-พม่า ไทย-กัมพูชา ไทย-ลาว และไทย-มาเลเซีย ได้แก่ จ.ระนอง แม่ฮ่องสอน ราชบุรี กาญจนบุรี ตาก อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด และยะลา พบว่า คุณภาพยาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90% หรือเชื้อดื้อต่อยา ประมาณ 10% ซึ่งตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกระบุว่า หากคุณภาพยาต่ำกว่า 90% ควรเปลี่ยนสูตรยาที่ใช้ในการรักษา ดังนั้นกรมควบคุมโรคจะเริ่มทำการเปลี่ยนมาใช้ยา ตัวใหม่ซึ่งเป็นยาสูตรผสมระหว่างไดไฮ โดรอาร์ติมิซินิน กับพิเพอราควิน ซึ่งทั้งกระบวนการสั่งซื้อยา จัดทำคู่มือ และอบรมเจ้าหน้าต้องใช้เวลา ซึ่งคาดว่าประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค.น่าจะสามารถใช้ได้ ส่วนผู้ป่วยที่เกิดจากเชื้อพลาสโมเดียมไวแวก ซึ่งไม่พบว่ามีการดื้อยา ยังสามารถใช้ยาตัวเดิมที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้ผลิตโดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการสั่งซื้อยาใหม่เข้ามาใช้ได้ประมาณเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม 2556 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น