วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

เมื่อฉันเป็นมะเร็ง (ต่อ2)

ฉันเริ่มเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น ฉันต้องรักและดูแลตัวเอง  ไม่ฟูมฟายให้ใครเห็น ไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัว-เอง ฉันต้องเป็นคนใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง  ฉันไปตรวจสุขภาพทุกปี หมอดีใจ ยิ้มแย้ม ที่เห็นคนไข้สดใสขึ้น  สุขภาพดีขึ้น คุณหมอถึงกับออกปากชม และขอให้ฉันเป็นวิทยากรให้ความรู้คนที่เริ่มป่วยด้วยโรคมะเร็งและกำลังท้อแท้ในชีวิต หมอรักษาฉันมาถึง 5 ปี คงเห็นการเปลี่ยนแปลงทุกระยะ ฉันปลื้มกับคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของหมอ ทุกวันนี้ ฉันปฏิบัติตัวเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของตัวเองเป็นกิจวัตรโดยยึดหลักง่าย  ๆ ดังนี้ 

1. ตื่นเช้ามา ดื่มน้ำเปล่า 1 - 2 แก้ว ก่อนล้างหน้าแปรงฟัน 
2. ดื่มน้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดผสมน้ำผึ้ง สลับกับน้ำข้าวกล้องทุกเช้าก่อนไปทำงาน
3. งดรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว หมู ไก่ ให้ รับประทานเนื้อปลา และผัก - ผลไม้แทน 
4. ดื่มน้ำผักผลไม้ปั่น เช่น ผักขึ้นฉ่าย ฝรั่ง สับปะรด แอปเปิ้ล แครอต ฟักทอง หรือน้ำส้มสด ๆ คั้นแล้วดื่มทันที  สัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง
5. ดื่มน้ำสะอาด  (น้ำเปล่าไม่แช่เย็น) วันละ 8 - 10 แก้ว 
6.ตื่นแต่เช้าเพื่อรับอากาศสดชื่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียง-พอ ก่อนนอนดื่มน้ำเต้าหู้อุ่น ๆ และอ่านหนังสือทุกชนิด  
7. ทุกเย็น ออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิก วิ่งเหยาะ ๆ เดินเร็ว  ปั่นจักรยาน สลับกันไปแล้วแต่สะดวก 
8. ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี หากมีเรื่องอะไรในใจจะจดบันทึกลงในสมุดเล่มเล็กเพื่อระบายความในใจ 
9. ทำงานบ้านทุกอย่าง ยามว่างปลูกต้นไม้ พรวนดิน ตัด-หญ้า ทำสภาพบ้านให้น่าอยู่ บรรยากาศดี มีลมพัดตามธรรมชาติ บ้านฉันอยู่ใกล้แม่น้ำ  มีเสียงนกร้อง  ช่างสุขใจทุกวันนี้ ฉันมีความสุข เพราะเคยผ่านความทุกข์ทรมานจากโรคร้าย กลัวกรรมวิธีในการรักษาและกลัวความตาย ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตใหม่ เลิกกินอาหารที่อร่อยลิ้น ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะรักตัวกลัวตาย ใครห้ามอะไร ใครบอกว่าเป็นของแสลง ไม่ดี ฉันเลิกได้หมด  ฉันมีเคล็ดลับในการกินอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ยังคงปฏิบัติ
มาจนถึงทุกวันนี้ และอยากเล่าสู่กันฟัง เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้าง ในแต่ละวันเรากินอาหารเข้าไปมากมายเหลือเกิน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น